การทำกระดาษสาจากกระดาษเหลือใช้
ที่มาและความสำคัญ
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทาง การดำเนินชีวิตแก่พากนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า ๒๕ ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงย้ำ แนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลง
มีหลักพิจราณาดังนี้
กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในแนวทางที่ควรจะเป็นโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโ,กเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นภัยจากภัยและวิกฤติ เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา
คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติได้ในทุกระดับโดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน
- ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น
- ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารนาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอกจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆอย่างรอบคอบ
- การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
"ความพอเพียง" หมายถึง ความพอประมาณอย่างมีเหตุผล โดยสร้างภูมิ คุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร เพื่อที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว กว้างขวาง ทั้งทางด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี โดยอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และความระมัดระวังในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ วางแผนและดำเนินการทุกขั้นตอน ควบคู่ไปกับการสร้างพื้นฐานจิตใจ
ของคนใน ชาติทุกระดับ ให้สำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร ความมีสติปัญญา และความรอบคอบ มีเหตุผล
แนวคิด
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พัฒนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อที่จะให้พสกนิกรชาวไทยได้เข้าถึงทางสายกลางของชีวิตและเพื่อคงไว้ซึ่งทฤษฏีของการพัฒนาที่ยั่งยืน ทฤษฎีนี้เป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตซึ่งอยู่ระหว่าง สังคมระดับท้องถิ่นและตลอดระดับสากล จุดเด่นของแนวปรัชญานี้คือ แนวทางที่สมดุล โดยชาติสามารถทันสมัย และก้าวสู่ความเป็นสากลได้ โดยปราศจากการต่อต้านกระแสโลกาภิวัตน์ และการอยู่รวมกันของทุกคนในสังคม
หลักปรัชญา
หลักปรัชญา
...การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐาน คือ ความพอมีพอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ ยกเศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด...
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ทรงปรับปรุงพระราชทานเป็นที่มาของนิยาม "3 ห่วง 2 เงื่อนไข" ที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นำมาใช้ในการรณรงค์เผยแพร่ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยความ "พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน" บนเงื่อนไข "ความรู้" และ "คุณธรรม
การนำไปใช้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ถูกใช้เป็นกรอบแนวความคิดและทิศทางการพัฒนาระบบเศรษฐกิจมหภาคของไทย ซึ่งบรรจุอยู่ใน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อความอยู่ดีมีสุข มุ่งสู่สังคมที่มีความสุขอย่างยั่งยืน หรือที่เรียกว่า "สังคมสีเขียว" ด้วยหลักการดังกล่าว แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 นี้จะไม่เน้นเรื่องตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงให้ความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจแบบทวิลักษณ์ หรือระบบเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างกันระหว่างเศรษฐกิจชุมชนเมืองและชนบทการนำไปใช้
วัตถุประสงค์
- เพื่อศึกษาลักษณะและโครงสร้างของกระดาษสา
- เพื่อนำกระดาษสามาใช้ในชีวิตประจำวัน
- เพื่อให้รู้วิธีการทำกระดาษสา
- เพื่อศึกษาวัสดุทดแทนจากธรรมชาติที่นำมาทำกระดาษสาได้
สมมติฐาน
ถ้านำกระดาษเหลือใช้มาประยุกต์เป็นกระสาดังนั้นจะลดการซื้อกระดาษสา
ตัวแปร
ตัวแปรต้น กระดาษเหลือใช้
ตัวแปรตาม ลดการซื้อกระดาษสา
ตัวแปรควบคุม จำนวนกระดาษ, ส่วนผสมและผู้ทดลอง
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- สามารถนำเอากระดาษสาที่ประดิษฐ์ขึ้นมาใช้กับชีวิตประจำวันได้
- เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และศึกษา
วิธีดำเนินงาน
วัสดุอุปกรณ์
- หนังสือพิมพ์ หรือ กระดาษเหลือใช้ 5-6 แผ่น
- ใบหญ้าคา
- ใบตระไคร้
- มีด 1 ด้าม
- ตะแกรง
- น้ำ 2 ถ้วย
- กะละมัง 1 ใบ
- เครื่องปั่น 1 เครื่อง
วิธีการทดลอง
- แช่กระดาษหนังสือพิมพ์ในน้ำ 25-30 นาที
- หั่นใบต่างๆ(ใบหญ้าคา ใบตระไคร้)เป็นชิ้นเล็กๆ
- นำใบใบหญ้าคาหรือใบตระไคร้ที่หั่นแล้วไปปั่นให้ละเอียด
- นำใบที่ปั่นใบหญ้าคาหรือใบตระไคร้แล้วไปผสมกับกระดาษให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- นำใบหญ้าคาหรือใบตระไคร้มาผสมกับกระดาษแล้วปั่นให้ละเอียด
- นำใบหญ้าคาหรือใบตระไคร้ที่ผสมแล้วมาร่อนในน้ำแล้วเกลี่ยให้เป็นแผ่นบางๆแล้วนำไปตาก
- พอแห้งแล้วก็จะได้แผ่นกระดาษสาจากกระดาษเหลือใช้
ตารางผลการทดลอง
ปริมาณสาต่อกระดาษ 1 แผ่น
|
ระยะเวลาที่ใช้ในการตากแห้ง(นาที)
| |||||
25 นาที
|
45 นาที
|
1 ชั่วโมง
|
1 ชั่วโมง25 นาที
|
1 ชั่วโมง45 นาที
|
2 ชั่วโมง
| |
3 ขีด
|
ยังไม่แห้ง
|
เริ่มหมาด
|
เริ่มแห้ง
|
แห้ง
|
-
|
-
|
4 ขีด
|
ยังไม่แห้ง
|
ยังไม่แห้ง
|
เริ่มหมาด
|
เริ่มแห้ง
|
แห้ง
|
-
|
5 ขีด
|
เปียก
|
ยังไม่แห้ง
|
เริ่มหมาด
|
เริ่มหมาด
|
เริ่มแห้ง
|
แห้ง
|
สรุปและอภิปรายผลการทดลอง
จากการทำโครงงานสรุปได้ว่า เราสามารถนำกระดาษที่เหลือใช้มาทำสาที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง เพราะเนื่องจากในชีวิตประจำวันของเราต้องใช้กระดาษในการห่อของ ขวัญหรือนำมาทำเป็นหน้าปกห่อหนังสือต่างๆเพื่อความสวยงาม อีกทั้งในปัจจุบันกระดาษสามีราคาแพงมากขึ้น ดังนั้นการทำกระดาษสาจากวัสดุธรรมชาติที่สามารถหาได้ตามทั่วไปในพื้นที่เป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยลดต้นทุนต่างๆได้
ปัญหาและอุปสรรคที่พบ
- กระดาษที่ตากแล้วบางเกินไป
- อุปกรณ์ไม่คบ
แนวทางในการแก้ไข
- เพิ่มปริมาณกระดาษมากขึ้น
- จัดหาอุปกรณ์
ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา
- ควรทำกระดาษสาหลายรูปแบบ
ประโยชน์ที่ได้รับในโครงงาน
- ได้รู้คุณค่าของกระดาษว่าเป็นสิ่งมีค่า
- นำไปเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจในการทำกระดาษสาที่ใช้จากกระดาษเหลือใช้